การออกแบบเกตในแม่พิมพ์ฉีดเป็นปัจจัยพื้นฐานของการขึ้นรูปแบบฉีดพลาสติก ซึ่งเน้นที่จุดที่พลาสติกเหลวไหลเข้าสู่ช่องว่างของแม่พิมพ์ โดยมีผลอย่างมากต่อคุณภาพ ความสวยงาม และประสิทธิภาพการผลิตของชิ้นงาน เกตประเภทหลักๆ ได้แก่ เกตขอบ (edge gates) สำหรับความเรียบง่าย เกตจุดเล็ก (pinpoint gates) เพื่อให้มองเห็นได้น้อยที่สุด และเกตซับมารีน (submarine gates) สำหรับการปลดชิ้นงานโดยอัตโนมัติ ปัจจัยในการออกแบบรวมถึงตำแหน่งของเกตเพื่อให้มั่นใจว่าการเติมวัสดุมีความสมดุล ลดเส้นรอยต่อ (weld lines) และควบคุมทิศทางของเส้นใยในวัสดุที่เสริมแรง ขนาดและรูปร่างของเกตจะถูกปรับให้เหมาะสมตามความหนืดของวัสดุและความหนาของชิ้นงาน เพื่อป้องกันปัญหา เช่น การพุ่งของวัสดุ (jetting) หรือการไหลสะดุด (hesitation) ในระบบหัวร้อน (hot runner) เกตจะถูกให้ความร้อนเพื่อรักษาระดับการไหลของวัสดุ ช่วยลดของเสียและเวลาไซเคิล ขณะที่ระบบหัวเย็น (cold runners) อาจต้องใช้การตัดแต่งด้วยมือ การวิเคราะห์การไหลด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยคาดการณ์ประสิทธิภาพของเกต ทำให้นักออกแบบสามารถปรับพารามิเตอร์เพื่อให้แรงดันกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ การเลือกใช้เกตมีผลต่อความต้องการในการแปรรูปภายหลังและการต้นทุน โดยระบบที่ทำงานอัตโนมัติมักเลือกใช้เกตที่ไม่ทิ้งคราบตกค้าง ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การบรรจุภัณฑ์ หรืออิเล็กทรอนิกส์ การออกแบบเกตจำเป็นต้องสอดคล้องกับการผลิตจำนวนมากและความต้องการด้านความสวยงาม โดยรวมแล้ว การออกแบบเกตที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของโพลิเมอร์ กลไกของแม่พิมพ์ และปัจจัยทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการผลิตที่หลากหลาย พร้อมทั้งรับประกันว่าชิ้นงานจะผ่านเกณฑ์ด้านการทำงานและด้านรูปลักษณ์ตามมาตรฐานสากล