เครื่องตัดพลาสติกเป็นอุปกรณ์อุตสาหกรรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการตัดวัสดุพลาสติกอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วัสดุฟิล์มและแผ่นแบบยืดหยุ่น ไปจนถึงโปรไฟล์แข็งและก้อนขนาดใหญ่ เทคโนโลยีที่ใช้มีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุ คุณภาพของการตัดที่ต้องการ และปริมาณการผลิต สำหรับโปรไฟล์อัดรีดแบบกึ่งแข็งและแข็ง เช่น วัสดุ PA66 ที่ใช้ในแอปพลิเคชันฉนวนความร้อน เครื่องเลื่อยวงเดือนที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์จะเป็นที่นิยมมากที่สุด เครื่องเหล่านี้มาพร้อมใบเลื่อยคาร์ไบด์ทังสเตนความเร็วสูง รางเลื่อนความแม่นยำสูง และระบบป้อนวัสดุด้วยเซอร์โวมอเตอร์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการตัดจะตรง มีผิวเรียบปราศจากเสี้ยน และมีความคลาดเคลื่อนไม่เกินเศษส่วนของมิลลิเมตร ประเด็นทางเทคนิคที่สำคัญ ได้แก่ รูปทรงเรขาคณิตของฟันเลื่อย ซึ่งจะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับพอลิเมอร์แต่ละชนิดเพื่อป้องกันการละลายหรือแตกร้าว และระบบยึดจับที่ต้องสามารถยึดโปรไฟล์ได้อย่างมั่นคงโดยไม่ทำให้วัสดุบิดเบี้ยวหรือเป็นรอยบนผิว ส่วนสำหรับแผ่นพลาสติกหรือฟิล์มบาง เครื่องตัดแบบกิโยตินหรือระบบเลเซอร์จะถูกนำมาใช้ โดยระบบที่ใช้เลเซอร์จะให้ความแม่นยำสูงมากและให้ขอบตัดที่ผสานผิวเรียบร้อย แต่มีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงกว่า เครื่องตัดพลาสติกขั้นสูงมักถูกรวมเข้ากับสายการอัดรีดอัตโนมัติ โดยทำหน้าที่เป็นหน่วยต่อเนื่องหลังกระบวนการ อุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานแบบซิงโครไนซ์กับความเร็วการดึงของเครื่องอัดรีด และติดตั้งอุปกรณ์วัดที่จะกระตุ้นการตัดเมื่อถึงความยาวที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การทำให้กระบวนการอัตโนมัตินี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตจำนวนมาก เพราะช่วยให้มั่นใจได้ถึงความยาวของชิ้นงานที่สม่ำเสมอ ลดแรงงาน และลดของเสียจากวัสดุ นอกจากนี้ เครื่องจักรรุ่นใหม่ยังมีระบบดูดฝุ่นเพื่อจัดการกับอนุภาคพลาสติก และมีอินเทอร์เฟซระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร (HMIs) ที่ใช้งานง่าย เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว การเลือกเครื่องตัดพลาสติกที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษามาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และการรับประกันความแม่นยำของขนาดชิ้นส่วนสำเร็จรูป เช่น แถบฉนวนความร้อน ก่อนที่จะนำไปประกอบเป็นระบบประตูหรือหน้าต่างสำเร็จรูป